ยังแฮปปี้เชื่อว่า พี่ๆ คงเคยได้ทราบคุณประโยชน์ของการทำสมาธิกันมาไม่มากก็น้อย นอกจากจิตใจผ่องใส เป็นกุศลตามหลักศาสนาแล้ว การฝึกสมาธิในชีวิตประจำวัน ยังช่วยให้สมองจดจ่อกับการทำงานได้ดี กระตุ้นความจำ ลดความเครียด และช่วยให้สุขภาพกายและใจดีขึ้น
.
การทำสมาธิในปัจจุบันจึงเป็นที่แพร่หลายกันมาก ในฐานะกิจกรรมเสริมสุขภาวะทางกายและจิตใจ ไม่จำกัดหมายถึงแต่การทำสมาธิในเชิงพุทธศาสนาอีกต่อไป แต่หมายถึงการฝึกกำหนดจิตให้จดจ่ออยู่กับปัจจุบันขณะและสังเกตการไหลเวียนเปลี่ยนผ่านของความรู้สึกนึกคิด ทำให้ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด มีความเชื่อแบบไหน ก็สามารถทำได้
.
เพราะการทำสมาธินั้นมีอุปกรณ์ง่ายๆ เพียงอย่างเดียว คือ ‘ตัวของเราเอง’ เราจึงฝึกสมาธิได้ทุกที่ ทุกเวลา ยังแฮปปี้จึงขอนำเทคนิคทำสมาธิผ่านกิจวัตรประจำวันที่พี่ๆ ต้องทำในทุกวัน คือ การทำงานบ้านนั่นเอง เราจะฝึกสมาธิผ่านการทำงานบ้านได้อย่างไรบ้าง ลองไปอ่านกันเลย

ล้างจานล้างใจ ให้ใสแจ๋ว
1. ขั้นแรก ให้พี่ๆ พิจารณาจานชามที่สกปรกอยู่ตรงหน้าอย่างถี่ถ้วน เปิดน้ำและสัมผัสอุณหภูมิความเย็น-ร้อนของน้ำที่ไหลผ่านมือ และจับความรู้สึกนั้นไว้สักครู่
2. ปรับลมหายใจเข้าออกให้เป็นจังหวะสั้นยาวเท่ากัน ไหลไปตามน้ำ
3. เริ่มลงมือล้างจาน จดจ่อกับการเคลื่อนไหวและท่าทางซ้ำๆ ในขณะที่มือสัมผัสกับจาน น้ำและฟองน้ำ
4. พี่ๆ อาจพิจารณากลิ่นและความรู้สึกของน้ำยาล้างจานที่ปะทะเข้ากับจมูกและมือ สังเกตฟองอากาศและแสงที่เกิดขึ้นก่อนที่จะหายไปในอากาศ
5. เมื่อล้างเสร็จแล้ว ให้พิจารณาความสะอาด และรู้สึกขอบคุณสำหรับความสงบในจิตใจที่ได้รับจากการล้างจานง่ายๆ

ปัดกวาด ถู ฝุ่นสยบ ใจสงบ
การปัดกวาดเช็ดถูบ้านนั้นไม่ได้มีวิธีแตกต่างจากการทำสมาธิผ่านการล้างจาน เพียงแต่เปลี่ยนอุปกรณ์และจุดสนใจเท่านั้น คือ
1. ให้พี่ๆ สังเกตพื้นที่ที่จะทำความสะอาดก่อน ร่องรอยฝุ่น ความสกปรกที่เกิดขึ้น อย่างช้าๆ
2. รู้สึกถึงส่วนต่างๆ ของร่างกายที่สัมผัสกับอุปกรณ์ปัดกวาดทั้งหลาย เช่น มือขณะจับไม้กวาด ไม้ถูพื้น ไม้ขนไก่ เป็นต้น สัมผัสถึงเนื้อสัมผัสของอุปกรณ์และปรับลมหายใจ
3. ขณะที่พี่ๆ เคลื่อนไหว ปัด กวาด ถูพื้นให้รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของร่างกาย กล้ามเนื้อมือ เท้าที่สัมผัสพื้น การลงน้ำหนัก การเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ถูกทำความสะอาดไปด้วย
4. เมื่อเสร็จแล้วอย่าลืมขอบคุณตัวเองสำหรับความสงบในจิตใจ และบ้านที่สะอาด

ซักผ้าฟอกใจให้สะอาด
1. ให้พี่ๆ สังเกตเนื้อสัมผัสของผ้าขณะเลือกหยิบออกจากตระกร้าหรือแยกลงถัง สังเกตว่าเสื้อผ้าของพี่ๆ มีลวดลาย สีสัน แตกต่างกันอย่างไร
2. สำหรับพี่ๆ ที่ซักผ้าด้วยมือ นอกจากการจดจ่อกับน้ำหนักของมือ การเคลื่อนไหวแล้ว ให้พี่ๆ สังเกตการเปลี่ยนแปลงของเนื้อผ้าที่เปียกน้ำ
3. ในขั้นตอนการอบแห้ง ให้พี่ๆ สังเกตความรู้สึกของผ้าที่ซักเสร็จใหม่ เมื่อนำออกจากเครื่องอบผ้า รับรู้ความร้อน กลิ่น และสัมผัสจากเนื้อผ้า ในการตากก็ทำแบบนี้เช่นเดียวกัน
4. เมื่อถึงขั้นตอนการเก็บ อย่าลืมสังเกตแต่ละรายละเอียดในขณะที่พับเก็บก่อนใส่ตู้ และอย่าลืมขอบคุณตัวเองที่มีเสื้อผ้าสะอาดสวมใส่
การจดจ่อกับจิตใจขณะทำความสะอาดบ้านนั้น ยังช่วยเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุอย่างน่ามหัศจรรย์ เพราะการสังเกตท่วงท่า การเคลื่อนไหวของร่างกายจะลดความเสี่ยงต่อการลื่นหกล้ม หรือสะดุดได้ พี่ๆ จะเห็นได้ว่า นี่เป็นเพียงแนวทางพื้นฐานเบื้องต้นเท่านั้น สิ่งสำคัญคือการกำหนดจิตใจให้จดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ ดังนั้นไม่ว่าจะเปลี่ยนจากกิจกรรมทั่วไป เป็น การอาบน้ำสัตว์เลี้ยง ล้างรถ ปลูกต้นไม้ เดินไปจ่ายตลาด ก็สามารถฝึกสมาธิได้หมด ยิ่งฝึกก็ยิ่งใจแข็งแรง สมองแข็งแรง สุขภาพใจดี สุขภาพกายก็จะดีตาม
อ้างอิง
https://royal-cleaning.co.uk/blog/Cleaning-as-Meditation
Share this article