แม้เมืองไทยจะได้ชื่อว่าเป็นเมืองร้อน แต่เข้าสู่หน้าร้อนทีไร ก็ยังไม่ชินสักที ต้องรีบมองหาตัวช่วยมาคลายร้อน สร้างความสดชื่นให้กับตัวเอง อากาศร้อนๆ แบบนี้ เชื่อว่าพี่ๆ หลายคนคงมีอาการคล้ายๆ กัน คือ ร่างกายโหยหาแต่ของกินเย็นๆ อย่างเครื่องดื่มเย็นๆ ขนมหวานใส่น้ำแข็งหรือผลไม้แช่เย็นฉ่ำ ยิ่งเย็นเท่าไร ยิ่งดี ทานเมื่อไรก็เหมือนได้ขึ้นสวรรค์
.
ของอร่อยอาจเป็นอาวุธวิเศษที่ใช้ต่อสู้กับอุณหภูมิที่สูงขึ้นในแต่ละวัน แต่พี่ๆ ทราบไหมว่า ฤดูร้อนไม่ได้พัดพาแต่เพียงลมร้อนมาเท่านั้น แต่ยังพาเอาโรคฮิตอย่าง ท้องร่วง-อาหารเป็นพิษ มาด้วย เรียกได้ว่า เป็นโรคประจำฤดูร้อนเลยทีเดียว และสาเหตุสำคัญของโรคนี้ก็มาจากอาหารและเครื่องดื่มที่พวกเรารับประทานเข้าไปนั่นเอง
.
เพราะหน้าร้อน เป็นช่วงที่ทำให้แบคทีเรียหรือเชื้อโรคบางชนิดเจริญเติบโตได้ดีในอาหาร และยังทำให้อาหารบูด เน่าเสียได้ง่าย บางเมนูโปรดของพี่ๆ ก็อาจสังเกตได้ด้วยตาเปล่า แต่บางอย่างก็อาจไม่แสดงลักษณะแปลกปลอมให้เห็น เมื่อทานเข้าไปก็ทำให้เกิดอาการท้องร่วงหรืออาหารเป็นพิษ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายของเรา ยังแฮปปี้จึงนำข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับเมนูต้องระวังจาก นักกำหนดอาหาร แผนกโภชนาการ ประจำโรงพยาบาลศิริราชปิยราชย์มหาการุณ และโรงพยาบาลเปาโล รวมถึงวิธีป้องกันจากโรคท้องร่วงและอาหารเป็นพิษในหน้าร้อนมานำเสนอ เพื่อให้พี่ๆ ได้เพลิดเพลินกับเมนูอร่อยอย่างสบายใจ รู้เท่าทันโรคร้าย ผ่านหน้าร้อนนี้ไปด้วยกัน
.
เมนูต้องระวัง หน้าร้อนต้องไม่ร่วง

1.อาหารที่มีกะทิ ‘กะทิ’ ขึ้นชื่อว่าเป็นส่วนประกอบหลักของอาหารไทยแทบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวอย่าง แกงเขียวหวาน มัสมั่น พะแนง หรือขนมหวานแทบทุกชนิดที่ใส่กะทิหรือราดกะทิ ทั้งกล้วยบวดชี เต้าส่วน เป็นต้น ซึ่งกะทินั้นเป็นวัตถุดิบที่มีจุลินทรีย์อยู่มาก จุลินทรีย์เหล่านี้เมื่อสัมผัสกับอากาศร้อนจะทำให้บูดเสียได้ง่าย ซึ่งเพจ เคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัว ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเมนูอาหารที่ทำจากกะทิไว้อย่างน่าสนใจว่า เมนูอาหารที่ทำจากกะทิและถูกปล่อยทิ้งไว้หรือคนบ่อยๆ โดยไม่มีการอุ่นร้อนจะทำให้จุลินทรีย์เติบโตเร็วขึ้น โดยเฉพาะตามร้านข้าวแกงต่างๆ ที่มักจะเปิดฝาทิ้งไว้และใช้ทัพพีคนบ่อยๆ เพราะทัพพีจะไปทำลายชั้นไขมันที่เคลือบผิวกะทิไว้ ทำให้จุลินทรีย์สัมผัสกับอากาศได้ง่ายขึ้น การรับประทานเมนูที่มีส่วนประกอบหลักจากกะทิจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อุ่นร้อนหรือแช่ตู้เย็นอยู่เสมอ และทิ้งทันทีหากพบว่ารสชาติเปลี่ยน

2.อาหารทะเล เพราะหน้าร้อน หลายๆ คนอาจเลือกไปพักผ่อนท่องเที่ยวที่ชายทะเล ต่อด้วยซีฟู้ดสุดฟิน ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา กับน้ำจิ้มสุดแซ่บริมหาด ได้บรรยากาศสุดๆ กันไปเลย แต่อากาศร้อนจะทำให้เชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่ในอาหารทะเลเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วงหรืออาหารเป็นพิษได้ เพราะฉะนั้นเพื่อความมั่นใจ ขอแค่พี่ๆ เลือกรับประทานอาหารทะเลที่ปรุงสุกในความร้อนที่เหมาะสม สะอาด หรือหากจะลือกซื้อไปปรุงเองที่บ้าน ก็เลือกแหล่งที่สด สะอาด ที่สำคัญไม่ผ่านสารเคมี เท่านี้ก็อร่อยกายสบายใจแล้ว

3. อาหารจำพวกส้มตำ ยำ ของเปรี้ยวหมักดอง เพราะกลุ่มอาหารเหล่านี้เป็นกลุ่มอาหารที่ไม่ผ่านความร้อนอย่างทั่วถึงจึงทำให้ปนเปื้อนจุลินทรีย์ได้ง่าย โดยเฉพาะร้านตามรถเข็น และอาหารกลุ่มนี้ยังมีรสชาติเผ็ดจัด เปรี้ยวจัดและเค็มจัด ซึ่งจะเข้าไปรบกวนการย่อยอาหารทำให้ลำไส้และกระเพาะอาหารไม่ดูดซึมอาหารที่รับประทานเข้าไป อาหารทั้งหมดจึงวิ่งตรงออกจากลำไส้กลายเป็นอาการท้องร่วงฉับพลัน

4. น้ำแข็งไส พี่ๆ หลายคนอาจสงสัยว่า น้ำแข็งไสเย็นๆ จะเป็นอันตรายในหน้าร้อนได้อย่างไร ทั้งๆ ที่น้ำแข็งไส น่าจะเป็นพระเอกของหน้าร้อนเลยทีเดียว จริงๆ แล้วความอันตรายของน้ำแข็งไสนั้น ไม่ได้อยู่ที่ตัววัตถุดิบ นอกเสียจากความหวานที่หากพี่ๆ กินมากเกินไป ก็จะส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้ แต่ของหวานจำพวก น้ำแข็งไส หวานเย็น หรือไอศกรีม ไปจนถึงน้ำผลไม้ปั่น มีข้อควรระวังอยู่ที่น้ำแข็ง เพราะอาจเจอกับน้ำแข็งที่ไม่สะอาด ปนเปื้อนกับเชื้อจุลินทรีย์อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษและท้องเสียได้ ซึ่งเชื้อเหล่านี้จะปนเปื้อนมากับบรรจุภัณฑ์ที่ไม่สะอาด วิธีการรักษาความเย็นซึ่งหลายแห่งมีการใช้กาบมะพร้าวที่ไม่สะอาด วิธีการตัดแบ่งน้ำแข็งตลอดจนสุขภาวะของผู้ขาย หากพี่ๆ จะรับประทานเมนูเย็นๆ เหล่านี้ให้ปลอดภัยก็คงต้องสังเกตความสะอาดของบรรจุภัณฑ์ก่อนตัดสินใจบริโภค
วิธีป้องกันอาการท้องร่วง-อาหารเป็นพิษ ในหน้าร้อน

1.รับประทานอาหารที่ปรุงสุกเสมอ
รับประทานอาหารที่ปรุงสุขถูกสุขลักษณะ เพราะเชื้อโรคจะถูกทําลายด้วยความร้อนในอุณหภูมิที่สูงกว่า 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป และควรรับประทานทันทีภายใน 2-4 ชั่วโมงหลังปรุงเสร็จ
2. รักษาสุขอนามัย
ล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง รวมถึงสังเกตความสะอาดของอาหารก่อนรับประทานทั้งบรรจุภัณฑ์ หน้าตาสีสันว่ามีสิ่งใดแปลกปลอม หรือผิดไปจากปกติหรือไม่
3.เลือกรับประทานอาหารในหมวดที่ออกฤทธิ์เย็น
หากพี่ๆ กำลังมองหาตัวช่วยคลายร้อน อาจนำหลักการของแพทย์แผนไทยที่ให้เลือกทานอาหารในหมวดที่ออกฤทธิ์เย็นต่อร่างกายมารับประทาน ซึ่งเป็นกลุ่มอาหารที่ย่อยง่าย รสชาติไม่จัดจ้าน ให้พลังงานแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ทำให้ร่างกายทำงานหนัก โดย ผักผลไม้ที่ออกฤทธิ์เย็น เช่น ตำลึง ผักบุ้ง มะเขือเทศ บวบ แตงชนิดต่างๆ แก้วมังกร มะละกอ กล้วยน้ำว้า ก็เป็นตัวอย่างผักและผลไม้ที่ออกฤทธิ์เย็นที่สามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด ซึ่งสามารถนำไปดัดแปลงเป็นเมนูอาหารได้หลากหลาย เช่น ผัดแตงกวาใส่ไข่ แกงเลียงผักหวาน เป็นต้น
ไม่ใช่เพียงแค่โรคท้องร่วงหรืออาหารเป็นพิษที่เราต้องระวัง แต่หน้าร้อนอาจพาอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ ลมแดด หรือภาวะร่างกายขาดน้ำมาด้วย พี่ๆ อย่าลืมรับประทานน้ำบ่อยๆ โดยทยอยจิบทีละนิด เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำอยู่เสมอ ซึ่งน้ำเปล่า เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด พยายามหลีกเลี่ยงน้ำหวานจำพวกน้ำอัดลม น้ำหวาน เพราะหากดื่มนำ้ประเภทนี้บ่อยๆ หมดหน้าร้อนอาจเจอโรคอ้วนหรือเบาหวานตามมาแทน
ฤดูกาลเป็นเรื่องที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งโลกเราผันผวน อุณหภูมิสูงขึ้นไปทุกวัน เราก็ต้องยิ่งเพิ่มความระมัดระวังให้กับตัวเองและคนรอบข้าง สิ่งสำคัญคือ นอกจากร่างกายแล้ว จิตใจก็ต้องดูแลด้วย เพราะอากาศร้อน คนก็ร้อนตาม อาจชวนให้อารมณ์เสียหงุดหงิดง่าย อย่างไรก็เย็นเข้าไว้ แล้วเปิดแอปยังแฮปปี้ ชมไลฟ์สนุกๆ อ่านบทความดีๆ และกิจกรรมสุดแฮปปี้ เป็นเพื่อนคลายร้อนให้พี่ๆ ได้เย็นใจตลอดหน้าร้อนนี้ดีกว่า
อ้างอิง
https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/food-should-not-eat-in-summer
Share this article