โดย ทิพถวิล (สินธุเสน) ชาตาคม

สาเหตุเนื่องจากเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งเกิดนึกอยากกินเป็ดย่างร้าน 'โดนัลดั๊ก' ซึ่งมีป้าย 'เชลล์ชวดชิม' เป็นหลักประกันความอร่อย

พอไปถึงร้านปรากฏว่ามีคนไม่มากเท่าที่คิด หลังจากสั่งอาหารเสร็จ ดิฉันก็สอดส่ายสายตามองทั่วๆ ว่าพอจะมีอะไรให้ร้องเรียนได้บ้าง เอ้ย! ไม่ใช่! แค่ดูไปเรื่อยเปื่อยฆ่าเวลา

แต่แล้วก็เจอจนได้ เพราะพอมองต่ำไปที่พื้นก็เห็นว่านอกจากจะมีขยะอยู่ประปรายแล้วยังเป็นคราบสกปรกไม่ต่างจากโต๊ะที่ดิฉันกำลังท้าวแขนอยู่ทำให้ต้องรีบยกแขนขึ้นทันที แต่ก็ยังนึกแก้ตัวแทนว่า เขาคงขายดีจนไม่มีเวลาทำความสะอาดร้าน

และพอเป็ดเข้าปากดิฉันก็ลืมเรื่องความสะอาดไปชั่วขณะเพราะรสชาติยังได้ใจอยู่ แต่พอกินไปได้เกือบหมดจาน เพื่อนดิฉันก็ส่งเสียงโวยวายขึ้นมาว่า

“เฮ้ย…นี่มันแมลงวันนี่หว่า!” ดิฉันเบรกเป็ดคำสุดท้ายเสียตัวโก่ง ก่อนจะยื่นหน้าไปเพ่งดูข้าวหน้าเป็ดของเขา และดิฉันรู้ว่าเขาไม่ได้ตาฝาดเพราะเพื่อนคนนี้มักจะเจอสิ่งแปลกปลอมในอาหารตามร้านเป็นอาชีพ จนพวกเราเชื่อว่าเขาคงถูกเทวดากลั่นแกล้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน เพราะดิฉันเห็นแมลงวันเต็มๆ ตา

เพื่อนดิฉันสวมบท 'สุดยอดนักร้องเรียน' เรียกเจ้าของร้านมาต่อว่าเสียยาวเหยียด เลยได้กินข้าวหน้าแมลงวันฟรี ดิฉันนึกว่าจะได้เป็ดย่างแถมเป็นการไถ่โทษซักจาน แต่ก็ต้องผิดหวัง (เออ ยังคิดจะกินอีกเนอะ) เพื่อนดิฉันทำท่าพะอืดพะอมตลอดทางที่เดินกลับ และสาบานว่าจะไม่ไปเหยียบร้านนี้อีก ตอนนั้นดิฉันเองยังไม่อินเท่าไหร่ เพราะไม่โดนกับตัวเอง แต่พอกลับถึงบ้านเท่านั้นแหละองค์สุดยอดนักร้องเรียน ก็ลงร่างดิฉันทันที

เพราะบ๊ะจ่าง ซึ่งดิฉันซื้อจากร้านเดียวกันสำหรับอาหารเย็น เป็นยางเหนียวหนืดจนต้องโยนทิ้งทั้งหมด 4 อัน ขนาดน้องหมาจอมตะกละยังเมินหน้าหนี! คืนนั้นดิฉันเลยนอนหลับๆ ตื่นๆ นอกจากจะเพราะท้องร้องจ้อกๆ แล้วยังเพราะคิดหาทางแก้เผ็ดไอ้ร้าน 'โดนัลดั๊ก' นั่นอีกด้วย เรื่องอะไรดิฉันจะยอมเสียเงินกว่าสองร้อยบาทไปฟรีๆ

วันรุ่งขึ้น ดิฉันหิ้วบ๊ะจ่างทั้งหมดไปกองตรงหน้าเจ๊เจ้าของร้าน แล้วก็ได้เงินคืนมาอย่างง่ายดาย แต่เท่านั้นยังไม่พอ... เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นๆ ต้องเดือดร้อนเหมือนดิฉันและเพื่อนๆ อีก เราควรจะต้องแจ้งให้บริษัท 'เชลล์ชวดชิม' ทราบว่า **ร้านที่เขาให้ประกาศนียบัตรไป ไม่ได้รักษาคุณภาพเหมือนตอนที่เขาได้รับป้ายใหม่ๆ เลย และเขาควรจะสุ่มตรวจสอบร้านพวกนี้บ้าง** แต่ดิฉันก็ต้องผิดหวังเมื่อเจ้าหน้าที่ที่นั่นตอบกลับมาว่า

“ทางเราไม่มีพนักงานพอที่จะไปตรวจสอบค่ะ แต่เราจะรับเรื่องไว้นะคะ” ดิฉันเลยต้องใช้แผนเดิมแต่คราวนี้เปลี่ยนบทบาทนิดส์นึง...

"ที่นั่นร้านโดนัลดั๊กหรือเปล่า ขอพูดกับเจ้าของร้านหน่อย" คนรับโทรศัพท์เงียบไปนิด ก่อนจะตอบแบบไม่มีตัวสะกดสไตล์ลูกจ้างพม่าว่า

“ไค จา พู ด้ว...”

"บอกเขาว่าโทรมาจากบริษัทเชลล์ชวดชิม”

"รอ เดี๋ย นะ จา ไป ตา ให้”

“นี่คุณ มีลูกค้าร้องเรียนมาหลายรายนะว่า

ร้านคุณไม่รักษาความสะอาดเลย ตั้งแต่สถานที่จนถึงอาหาร และยังเอาของเสียมาขายลูกค้าอีก ทำอย่างนี้เสียชื่อเราหมด
ถ้าคุณไม่ปรับปรุงแก้ไขเราจะปลดป้ายและเอาประกาศนียบัตรคืน...”

"โอย..อย่าเพิ่งค่ะ ขอโทษจริงๆ พอดีช่วงนี้ลูกจ้างขาดหลายคน และเปลี่ยนแม่ครัวใหม่ด้วย แต่จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกเด็ดขาดค่ะ ขอเวลาหน่อยนะคะ”

"โอเค โอเค แต่อย่าให้นานนักแล้วกัน เราจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจอยู่เรื่อยๆ ถ้าเจอเมื่อไหร่ก็ไม่มีข้อแก้ตัวนะ” ยัยเจ๊เจ้าของร้านรับปากแข็งขันก่อนจะวางหูไป

คุณผู้อ่านคิดว่าเจ๊แกจะกล้าปล่อยให้มีแมลงวันในอาหาร ขายบ๊ะจ่างยางมะตอย หรือไม่ทำความสะอาดร้านเหมือนที่ผ่านมาอีกไหมคะ ดิฉันเองยังไม่ได้กลับไปพิสูจน์ผลงานของตัวเอง แต่มั่นใจว่าเจ๊แกคงไม่กล้าเสี่ยงแน่นอน!