เรื่องโดย นภาลัย ทองปัน
ผลงานเขียนโดยนักเขียนรุ่นใหญ่จากคอร์ส 'เขียนคอนเทนต์สไตล์วัยเก๋า'

เราต้องแยกขยะก่อนทิ้ง ใครๆ ก็รู้ แต่สงสัยทุกทีว่า ขยะเปียกทิ้งอย่างไรดี จึงจะถูกต้อง

เคยสงสัยมั้ยคะว่า เวลาล้างจานควรจะทิ้งเศษอาหารอย่างไรจึงจะไม่ทำให้อ่างล้างจาน รวมไปถึงท่อน้ำสาธารณะไม่อุดตันและเป็นปัญหาเพราะฝีมือเรา ผู้เขียนเคยสงสัยบ่อยๆ และกังวลทุกครั้งตอนเวลาล้างจานที่มีเศษอาหารเหลือ โดยเฉพาะ ‘น้ำแกง’ ที่ทั้งมันและมีกลิ่น

เอ! หรือเราจะเทลงในอ่างล้างจานเลย หรือจะใส่ถุงแกงที่ใส่อาหารนั่นแหละ แล้วค่อยทิ้งในถังขยะอีกที เพราะง่ายและสะดวกดี แต่มันจะไปรวมกับขยะอื่นๆ ทำให้เน่าเหม็นรึเปล่า สงสารเจ้าหน้าที่เก็บขยะ ยิ่งถ้าถุงแตกทำให้ขยะแห้งอื่นๆ พลอยเปียกเน่าเหม็นไปด้วย และที่น่าเป็นห่วง บางคนบอกว่าสามารถนำเศษไปคลุกข้าวให้สุนัข หารู้ไม่ว่า สุนัขที่กินอาหารคนเข้าไป มีโอกาสเสี่ยงสูงมากที่จะทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคไตได้

บางทียังคิดว่าเศษอาหารที่เหลือๆ รวมไปเทในโถส้วมจะดีมั้ย แต่จะทำให้ชักโครกตันรึเปล่า อีกทั้งยังนึกแหยงๆ และถ้ามีเศษกระดูกชิ้นใหญ่ๆ หรือเผลอทิ้งช้อน หรือตะเกียบตกลงไปด้วยคงไม่ดีแน่

เชื่อว่าหลายคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ เริ่มจะสงสัยแล้วล่ะสิ งั้นเรามาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันเลยนะคะ

จากที่ผู้เขียนค้นคว้ามา พบว่า มีวิธีการกำจัดของเสียที่เป็นเศษอาหาร หรือที่เรียกว่า ‘ขยะเปียก’ ได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบ้าน และความสะดวกของแต่ละคน

กรณีที่บ้านเรามีพื้นที่สวน หรือปลูกต้นไม้อยู่บ้าง เศษอาหารที่เหลือ มีประโยชน์มากคือนำมาทำเป็นปุ๋ย ถ้าทำถังหมักปุ๋ยสดจะทำให้มีประสิทธิภาพและง่ายต่อการกำจัดขยะเปียกได้ดีที่สุด สำหรับวิธีการทำถังหมักปุ๋ยก็มีหลายแบบหลายวิธี หรือบางคนก็นำไปทิ้งข้างต้นไม้แล้วฝังกลบ หรือนำน้ำแกงไปผสมน้ำให้เจือจางเพื่อรดต้นไม้ก็ได้เช่นกัน แต่จะมีปัญหาอยู่บ้างที่อาจจะมีมด หรือสัตว์ที่ไม่พึงประสงค์อื่นๆ มารบกวนได้ สรุปว่าถ้าลดภาระให้เจ้าหน้าที่เทศบาลได้จะดีที่สุด แล้วได้ปุ๋ยทำเอง นี่เยี่ยมที่สุดค่ะ

กรณีที่เราอยู่คอนโดมิเนี่ยม หรือบริเวณบ้านที่ไม่มีพื้นที่ปลูกต้นไม้เลย ครั้นจะแยกขยะเปียกทำปุ๋ยหมักคงจะไม่เหมาะสมแน่นอน จำเป็นต้องทิ้งโดยใช้บริการของเทศบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คราวนี้มีข้อสงสัยว่า เราควรจะทิ้งขยะเปียกอย่างไรจึงจะถูกต้อง เป็นภาระต่อสังคมให้น้อยที่สุด และเหมาะสมที่สุด มีแนวทางดังนี้ค่ะ

1. การทิ้งสิ่งปฏิกูลทุกสิ่งที่ไม่ใช่น้ำเปล่า ลงในอ่างล้างจานเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เช่น เศษอาหาร น้ำแกง น้ำมัน เพราะจะทำให้อ่างล้างจานและท่อน้ำของบ้านเรา รวมไปถึงท่อน้ำสาธารณะตัน และอาจจะเป็นที่อาศัยของแมลงรบกวนต่างๆ ยกเว้นแต่บางบ้านที่มีถังดักน้ำมันสำหรับกรองไขมันก่อนลงท่อน้ำสาธารณะก็จะช่วยให้ลดภาระต่อสังคม โดยเฉพาะร้านอาหาร หากทิ้งสิ่งปฏิกูลลงในท่อระบายน้ำสาธารณะ ถือว่าผิดกฎหมายด้วยนะ

2. การทิ้งเศษอาหารลงในชักโครกไม่ควรทำเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะสามารถกำจัดเศษอาหารได้ แต่หากมีปริมาณมาก หรือทำเป็นประจำ อาจเป็นผลเสียในกรณีที่มีการสะสมในบ่อเกรอะมากๆ ทำให้จุลินทรีย์ทำงานไม่ทันก็อาจส่งผลให้ชักโครกตันได้ อีกทั้งอาจเป็นแหล่งสะสมคราบไขมันที่กำจัดได้ยากอีกด้วย

3. ควรแยกขยะเปียกที่เป็นเศษอาหารใส่ถุงที่มัดปากถุงให้มิดชิด แล้วค่อยนำไปทิ้งในถังแยกขยะเปียกต่างหาก โดยทั่วไปเป็นถังขยะสีเขียว และอย่าลืมเช็ดเศษอาหารที่ติดภาชนะด้วยกระดาษชำระก่อนนำไปล้างในอ่างล้างจานด้วย ส่วนน้ำมันที่ไม่ใช้แล้ว ควรเก็บรวบรวมใส่ขวดปิดฝาให้มิดชิดแล้วเขียนข้อความติดกำกับไว้เพื่อให้เจ้าหน้าเก็บขยะเห็นได้ชัดเจนก่อนนำไปทิ้งในถังขยะ

เพียงเท่านี้ เราก็สบายใจในการปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและเหมะสม ด้วยการแยกขยะแห้งและขยะเปียก แล้วนำไปทิ้งในถังขยะให้ถูกที่และถูกวิธี เพื่อช่วยกันดูแลสังคม สิ่งแวดล้อม และโลกของเรา ทุกคนก็จะมีความสุขร่วมกันค่ะ

อ้างอิง

https://www.doe.go.th/prd/assets/upload/files/hrad_th/0f1a1cbc26a974c84a120fa6417621eb.pdf

https://www.youtube.com/watch?v=oft9AgVg2fs