ประเด็นของเพศที่สาม หรือ LGBTQ+ ในบ้านเรา ถือเป็นหนึ่งในประเด็นที่สังคมส่วนใหญ่ให้ความสำคัญมาอย่างยาวนาน เพราะนอกจากการที่ผู้คนต่างปฏิบัติอย่างเท่าเทียมแล้ว เรื่องของกฎหมายสมรสเท่าเทียม ก็เป็นสิ่งที่เหล่า LGBTQ+ เรียกร้องเสมอมา
ความน่าสนใจ คือไม่ใช่แค่คู่รักหนุ่มสาวหรือวัยกลางคนเท่านั้นที่เรียกร้องกฎหมายสมรสเท่าเทียม แต่ยังมีรุ่นใหญ่วัยเก๋าที่ยังรอคอยด้วยเช่นกัน อย่างเรื่องราวของ ปู่กัญจน์และย่าตุ๊ก คู่รัก LGBTQ+ รุ่นใหญ่ ที่ครองรักกันมายาวนานกว่า 30 ปี โดยปัจจุบัน ปู่กัญจน์ - กัญจน์ เกิดมีมูล อายุ 72 ปี และย่าตุ๊ก - ปกชกร วงศ์สุภาร์ อายุ 67 ปี ซึ่งก่อนหน้านั้น ทั้งคู่ต่างก็เคยมีสามีมาก่อน แต่กลับต้องประสบกับปัญหาชีวิตคู่จนต้องเลิกรากันไป ก่อนที่ทั้งคู่จะมีโอกาสได้พบเจอกันในที่สุด
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ทั้งปู่กัญจน์และย่าตุ๊ก พยายามผลักดันให้กฎหมายสมรสเท่าเทียมได้รับการบังคับใช้ คือตอนที่ปู่กัญจน์ป่วย แล้วย่าตุ๊กไม่สามารถตัดสินใจในการรักษาใดๆ ได้ เนื่องจากไม่ใช่ญาติหรือคู่สมรสทางกฎหมาย ทำให้ทั้งคู่พยายามผลักดันให้ร่างกฎหมายนี้สำเร็จ เพราะไม่ใช่แค่เรื่องของความรัก หรือการอยู่ด้วยกันตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องช่องว่างทางกฎหมายอื่นๆ ที่ชาว LGBTQ+ ปรารถนาให้เกิดขึ้นจริงนั่นเอง
และล่าสุด เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ประเทศไทยก็ได้ผ่านร่างกฎหมาย ‘สมรสเท่าเทียม’ หรือการให้บุคคลที่มีเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้ และจะมีผลใช้บังคับหลังกฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษา หลักจากนั้น 120 วัน ทำให้ไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียน และเป็นประเทศที่ 3 เอเชียที่รับรองการแต่งงานของเพศเดียวกัน หลังจากที่มีการผลักดันมากว่า 12 ปี
ยังแฮปปี้จึงขอร่วมแสดงความยินดีกับชาว LGBTQ+ วัยเก๋าทุกคน ที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม ได้เกิดขึ้นจริงแล้ว
อ้างอิง
Share this article