มื้อเช้าเป็นมื้ออาหารที่สำคัญที่สุด แต่กลับเป็นมื้อที่หลายคนให้ความสนใจน้อยที่สุด อย่างการแค่ขนมปังปิ้งแผ่นเล็กๆ หรือไข่ต้ม กับกาแฟหรือชา

YoungHappy x Nestle



มื้อเช้าเป็นมื้ออาหารที่สำคัญที่สุด แต่กลับเป็นมื้อที่หลายคนให้ความสนใจน้อยที่สุด อย่างการแค่ขนมปังปิ้งแผ่นเล็กๆ หรือไข่ต้ม กับกาแฟหรือชาเท่านั้น ซึ่งสำหรับชาวสูงวัยการกินอาหารเช้าเพียงเท่านี้ อาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการก็เป็นได้



ยังแฮปปี้ และ เนสท์เล่ สนับสนุนให้คนไทยแข็งแรง และอยากให้วัยเก๋าทุกคนใส่ใจดูแลสุขภาพ จึงอยากชวนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การกินอาหารเช้าเพื่อสุขภาพที่ดีให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เหตุผลสำคัญที่ผู้สูงอายุไม่ควรละเลยการกินอาหารเช้า, เคล็ดลับการเลือกกินอาหารให้ได้คุณค่าครบถ้วน และปิดท้ายด้วยตัวอย่างเมนูอาหารเช้า สไตล์วัยเก๋า เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงในทุกๆ วัน



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/06/nestle-มื้อเช้า-03-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-54280"/></figure>



ทำไมมื้อเช้าจึงสำคัญ



มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งในแต่ละช่วงวัยจะมีความต้องการสารอาหารไม่เท่ากัน โดยผู้สูงอายุอาจจะมีความต้องการสารอาหารประเภทให้พลังงานอย่าง คาร์โบไฮเดรต และไขมัน น้อยกว่าช่วงวัยอื่น แต่สำหรับสารอาหารประเภท โปรตีน เกลือแร่ และวิตามิน กลับต้องการในปริมาณเท่ากับตอนที่เป็นหนุ่มสาว



ทั้งนี้ เป็นเพราะว่าผู้สูงอายุต้องการสารอาหารจำพวกโปรตีนเพื่อมาเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อที่ลดลงตามธรรมชาติ และถ้าได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะทำการสลายโปรตีนจากกล้ามเนื้อออกมาใช้ โดยในระยะยาวจะส่งผลเสียต่อมวลกล้ามเนื้อและสุขภาพโดยรวมได้ ดังนั้น การกินอาหารเช้าเพื่อให้ได้รับพลังงานและโปรตีนที่เพียงพอจึงสำคัญกับผู้สูงอายุมาก



นอกจากนี้ การกินอาหารเช้าน้อย จะทำให้รู้สึกหิวในภายหลัง ทำให้ในมื้อต่อไปจะมีความต้องการกินอาหารในปริมาณที่มากเกินกว่าร่างกายจะดูดซึมไปใช้ได้ จนกลายเป็นไขมันส่วนเกินสะสมในร่างกายและอาจมีผลทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/06/nestle-มื้อเช้า-04-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-54281"/></figure>



กินมื้อเช้าอย่างไรให้ได้คุณค่าครบ



อาหารเช้าที่ดีของผู้สูงอายุ ควรคำนึงถึงสารอาหารจำพวกโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อปลาที่ให้โปรตีนคุณภาพดีและย่อยง่าย, ไข่ไก่หรือไข่เป็ดต้มสุก มีคุณค่าทางอาหารสูงและอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก, นมพร่องมันเนย เพื่อเสริมทั้งโปรตีนและแคลเซียมให้กับร่างกาย, และเมนูถั่วหรือเต้าหู้ ที่ให้โปรตีนสูงและมีราคาถูก สามารถให้สารอาหารจำพวกโปรตีนแทนอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ได้&nbsp;



นอกจากนี้ ผู้สูงอายุยังสามารถรับประทานโปรตีนจากการเลือกกินเวย์โปรตีนที่ออกแบบมาเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะ มีคุณสมบัติที่ย่อยและดูดซึมได้ง่าย มีการใช้ไขมันชนิดดี และมีจุลินทรีย์สุขภาพ โดยอาหารสูตรครบถ้วนที่มีคุณสมบัติข้างต้นนี้สามารถกินเสริมได้วันละ 1-2 แก้วทุกวัน เพื่อเติมเต็มสารอาหารที่อาจขาดหายไปในวันที่กินน้อยหรือกินไม่ลงได้



ส่วนการรับประทานคาร์โบไฮเดรต ควรเลือกเป็น ข้าวกล้องและธัญพืช มากกว่าข้าวหรือแป้งที่ผ่านกระบวนการขัดสี เช่น ข้าวโอ๊ตต้ม ขนมปังโฮลวีท ซุปฟักทอง ซุปลูกเดือย หรือซุปข้าวกล้อง เพราะมีใยอาหารสูงและยังมีวิตามินบีหนึ่ง วิตามินดี ซึ่งเป็นวิตามินที่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักขาดอีกด้วย



ในด้านเกลือแร่และวิตามิน ผู้สูงอายุควรได้รับผักและผลไม้ทุกวัน โดยถ้าเป็นผัก ควรต้มหรือนึ่งให้สุกก่อน ส่วนผลไม้ควรเป็นผลไม้ที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม เคี้ยวง่าย เช่น มะละกอสุก กล้วยสุก แตงโม หรือส้ม



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/06/nestle-มื้อเช้า-06-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-54282"/></figure>



เมนูอาหารเช้า สไตล์วัยเก๋า



สำหรับเมนูอาหารเช้า สไตล์วัยเก๋า จะต้องเน้นเป็นเมนูที่ให้สารอาหารครบ 5 หมู่ และเสริมแคลเซียม ยกตัวอย่างเช่น ข้าวสวยหรือข้าวกล้องร้อนๆ 2 ทัพพี (คาร์โบไฮเดรต) กินคู่กับ ผัดผักบุ้งไฟแดง 1 ทัพพี (เกลือแร่และไขมัน) และปลานึ่งราดซีอิ๊ว 2 ช้อนกินข้าว (โปรตีน) พร้อมปิดท้ายด้วย แก้วมังกร 6 ชิ้น (วิตามิน) และ นมถั่วเหลืองไม่หวาน หรือ นมพร่องมันเนย 1 แก้ว (แคลเซียม) เป็นต้น



และที่สำคัญผู้สูงอายุควรระวังการกินอาหารที่มีไขมันมากๆ เช่น ปาท่องโก๋ อาหารทอด และอาหารที่มีกะทิมากๆ เพราะอาจจะทำให้ท้องอืด แน่นท้อง และยังทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้น ในการทำอาหารจึงควรเลือกใช้เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และเปลี่ยนการปรุงจาก การผัดหรือทอด เป็น การต้มหรือแกงที่ไม่ใส่กะทิ



เป็นอย่างไรกันบ้าง กับเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับการกินอาหารเช้าเพื่อสุขภาพ รู้อย่างนี้แล้ว ชาวยังแฮปปี้ต้องไม่ลืมให้ความสำคัญกับมื้อเช้า เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และให้สารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง



สนับสนุนข้อมูลโดย <a href="https://www.nestlehealthscience-th.com/">https://www.nestlehealthscience-th.com/</a>

มื้อเช้านั้นสำคัญไฉน สูงวัยสุขภาพดีต้องไม่พลาดอาหารมือเช้า

เชื่อว่าหลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่า การดื่มน้ำ มีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกายเป็นอย่างมาก ยิ่งในช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าว ร่างกายจะสูญเสียเหงื่อมาก

YoungHappy x Nestle



เชื่อว่าหลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่า การดื่มน้ำ มีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกายเป็นอย่างมาก ยิ่งในช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าว ร่างกายจะสูญเสียเหงื่อมากกว่าปกติ และเหนื่อยล้าจากอุณหภูมิความร้อน ดังนั้นการดื่มน้ำเพื่อชดเชยน้ำที่เสียไปและเติมความสดชื่นให้กับร่างกาย จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม



สำหรับหน้าร้อนนี้ ยังแฮปปี้จึงอยากชวนพี่ๆ มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ ให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การตระหนักถึงสัญญาณเตือนจากร่างกายเมื่ออยู่ในภาวะขาดน้ำ, สูตรหาปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน, คุณประโยชน์ของน้ำต่อร่างกายและจิตใจ และสุดท้าย เทคนิคดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้ว สไตล์วัยเก๋า



ยังแฮปปี้ และ เนสท์เล่ สนับสนุนให้คนไทยแข็งแรง และอยากให้วัยเก๋าทุกคนใส่ใจดูแลสุขภาพ จึงอยากจะแนะนำให้เข้าใจความสำคัญของ การดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อความสดชื่นแจ่มใสของสุภาพกายและใจในทุกๆ วัน 



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/05/MicrosoftTeams-image-67-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-52754"/></figure>



สัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังขาดน้ำ



ฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด เป็นโรคยอดฮิตประจำฤดูร้อน เกิดเมื่อร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไปและไม่สามารถขับความร้อนออกมาได้ โดยกลุ่มผู้สูงอายุและผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรคดังกล่าวได้ง่าย เนื่องจากมวลกล้ามเนื้อในร่างกายลดลง ทำให้น้ำในร่างกายลดลงตามไปด้วย และอาจจะไม่ค่อยรู้สึกกระหายน้ำ จึงมักจะได้รับน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการ



โดยภาวะขาดน้ำจะส่งผลทำให้ระบบในร่างกายทำงานผิดปกติ อาจมีภาวะชัก หรือหมดสติจากการที่หัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดภาวะนี้ขึ้น ร่างกายจึงมีการส่งสัญญาณเตือนออกมาล่วงหน้าในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ปัสสาวะที่มีสีเหลืองเข้ม, ริมฝีปากแห้ง, ผิวแห้ง, อาการเหนื่อยหอบ หรือ หัวใจเต้นเร็ว ซึ่งถ้าหากพบอาการตามข้อสังเกตดังกล่าว ก็ควรหันมาดื่มน้ำให้มากขึ้น



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/05/MicrosoftTeams-image-70-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-52755"/></figure>



ควรดื่มน้ำปริมาณเท่าไรใน 1 วัน



ความจริงแล้ว ปริมาณน้ำที่ทุกคนควรได้รับต่อวันมีปริมาณไม่เท่ากัน หลักๆ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน สำหรับช่วงอายุที่ต้องการน้ำมากที่สุด คือ 19-30 ปี และจะลดลงเมื่อมีอายุมากขึ้น โดยเราสามารถนำน้ำหนักตัวมาคำนวณเพื่อหาปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการต่อวัน ด้วยสูตร น้ำหนัก (กิโลกรัม) คูณด้วย 2.2 คูณด้วย 30 และหารด้วย 2 จะได้ปริมาณน้ำที่เราควรดื่มใน 1 วันเป็นหน่วยมิลลิลิตร



ยกตัวอย่างเช่น น้ำหนักตัว 70 กิโลกรัม × 2.2 × 30 / 2 จะเท่ากับ 2,310 มิลลิลิตร แต่ถ้าไม่อยากคำนวณให้ยุ่งยาก อาจจะใช้แก้วน้ำเป็นตัววัดแทนได้ โดยการดื่มน้ำประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน หรือเทียบเท่ากับการดื่มน้ำจากขวดขนาด 600 มิลลิลิตร ประมาณ 3 ขวดนั่นเอง



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/05/MicrosoftTeams-image-66-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-52756"/></figure>



คุณประโยชน์ของน้ำ ต่อสุขภาพกายและใจ



ร่างกายของเราประกอบไปด้วยน้ำอย่างน้อยร้อยละ 60 ของน้ำหนักตัว น้ำมีหน้าที่สำคัญในการดูแลความสมดุลในร่างกาย แต่นอกจากนี้ น้ำยังมีประโยชน์อีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น การดื่มน้ำอย่างน้อย 2,400 มิลลิลิตรต่อวัน จะช่วยเพิ่มความสามารถในการตอบสนองของร่างกาย พัฒนาความจำระยะสั้น ช่วยลดความเครียด ทำให้นอนหลับดีขึ้น แถมยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความกระชับให้กับผิวหนังได้อีกด้วย



จะเห็นได้ว่า น้ำเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อร่างกายของเรามาก ดังนั้น การเลือกน้ำเปล่าที่ดีจึงมีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยควรเลือกน้ำดื่มคุณภาพที่สะอาด ใส และบริสุทธิ์ ที่ใช้เทคโนโลยีการกรองละเอียดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเอาเชื้อโรคและสิ่งปลอมปนออกจากน้ำไปจนหมด เหลือแต่เพียงแร่ธาตุที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายเท่านั้น



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/05/MicrosoftTeams-image-68-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-52757"/></figure>



เทคนิคดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้ว สไตล์วัยเก๋า



สุดท้ายนี้ มีเทคนิคดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้วต่อวันมาฝากกัน เผื่อพี่ๆ จะลองนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของตัวเองดู ไม่ว่าจะเป็นการพกกระติกน้ำขนาด 600 มิลลิลิตร เติมประมาณ 3 ครั้ง เพื่อดื่มให้ครบ 1,800 มิลลิลิตร หรือจะแบ่งดื่มเป็นแก้วๆ ไป โดยกำหนดช่วงเวลาดื่มน้ำให้กับตัวเองอย่างง่ายๆ คือ ดื่มน้ำ 1 แก้วหลังตื่นนอนทันที เพื่อเพิ่มความสดชื่นและชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสียไประหว่างที่หลับ, ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนและหลังมื้ออาหาร (เช้า กลางวัน เย็น) เพื่อช่วยในการย่อยและดูดซึมอาหาร และดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนเข้านอน เพื่อช่วยป้องกันร่างกายขาดน้ำขณะนอน



อย่างไรก็ตาม สำหรับการดื่มน้ำก่อนเข้านอน ไม่ควรดื่มเยอะเกินไปหรือดื่มใกล้กับเวลานอนมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้พี่ๆ รู้สึกปวดปัสสาวะ แล้วตื่นขึ้นมากลางดึก เพื่อลุกขึ้นมาทำธุระในห้องน้ำ ซึ่งจะเป็นการขัดจังหวะการนอนหลับ ทำให้นอนหลับได้ไม่เต็มอิ่มนั่นเอง



เป็นอย่างไรกันบ้าง กับเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับการดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ รู้อย่างนี้แล้ว ชาวยังแฮปปี้อย่าลืมดื่มน้ำให้มากๆ เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะได้ห่างไกลจากภาวะร่างกายขาดน้ำ เพื่อสุขภาพกายและใจที่ดี



สนันสนุนข้อมูลโดย <a href="https://www.nestlepurelife.com/th/th-th">https://www.nestlepurelife.com/th/th-th</a>

สุขภาพดีได้ง่ายๆ แค่ดื่มน้ำให้เพียงพอ

เวลาและสถานที่ที่ไปเดินออกกำลังกายคือสวนสุขภาพใกล้บ้านที่ไปเป็นประจำทุกวัน อุณหภูมิก็เหมือนกับวันอื่นๆ ทำให้ไม่นึกว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น

โดย คุณอุษาวดี สินธุเสน&nbsp; อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสาร&nbsp;Secret&nbsp; ผู้เขียนหนังสือ&nbsp;‘คิดเป็น โลกเปลี่ยน’&nbsp;



เพิ่งรู้ว่าอาการตาลาย เป็นลมล้มทั้งยืน แล้วหมดสติไปนั้น เป็นอย่างไร&nbsp;



ได้แต่สงสัยมานาน&nbsp;คราวนี้เจอกับตัวเองจังๆ&nbsp;เลยค่ะ&nbsp;



ตอนแรกไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร แต่ตอนหลังเมื่อศึกษาดูเลยรู้ว่า สาเหตุน่าจะมาจากออกกำลังกายกลางแจ้งนานเกินไป&nbsp;ในวันที่อากาศร้อนจัด และร่างกายคงจะขาดน้ำ&nbsp;ทำให้เกิดอาการ&nbsp;Heat Stroke&nbsp;(โรคลมแดด)&nbsp;แต่ยังดีที่ไม่รุนแรงมาก หรืออาจเพราะมีคนมาช่วยทัน&nbsp;จึงไม่ถึงกับเสียชีวิต&nbsp;



เวลาและสถานที่ที่ไปเดินออกกำลังกายคือสวนสุขภาพใกล้บ้านที่ไปเป็นประจำทุกวัน&nbsp;อุณหภูมิก็เหมือนกับวันอื่นๆ ทำให้ไม่นึกว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น&nbsp;นี่จึงเป็นบทเรียนสอนใจว่าห้ามประมาทเด็ดขาด!&nbsp;



จำได้ว่าวันนั้นดิฉันเดินออกกำลังกายมานานพอสมควรแล้ว&nbsp;แต่ยังรู้สึกว่าไม่พอ&nbsp;และอยากบริหารร่างกายต่อ&nbsp;‘อีกนิด’&nbsp;ปรากฏว่าแป๊บเดียวก็เริ่มรู้สึก วิงเวียน&nbsp;ตาพร่า&nbsp;มึนศีรษะ&nbsp;หายใจไม่เต็มปอด&nbsp;ที่สำคัญคือ&nbsp;‘หิวน้ำมากๆ’&nbsp;



หลังจากมึนๆ&nbsp;งงๆ&nbsp;อยู่ครู่หนึ่ง&nbsp;นั่งพักก็ไม่หาย&nbsp;เห็นท่าไม่ดี&nbsp;เลยโทรหาแม่บ้าน&nbsp;บอกว่ากำลังจะเป็นลมแล้ว&nbsp;ช่วยออกมาดูหน่อย&nbsp;



พูดจบก็หมดสติไปเลย มารู้ตัวอีกที ตอนที่มีคนมาเขย่าตัว ถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า 



นับว่าโชคยังดีที่…



- มีสติ และโทรบอกคนที่บ้านทันก่อนจะวูบไป&nbsp; - มีคนเดินอยู่ในบริเวณใกล้เคียงและเข้ามาช่วยเหลือทัน&nbsp; - เดินเซไปล้มลงบนพื้นหญ้า&nbsp;ทั้งๆ&nbsp;ที่ไม่รู้ตัวแล้ว&nbsp;นับว่าโชคดีมาก&nbsp;ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอันตรายร้ายแรงเกินคาด&nbsp;เพราะบริเวณที่ยืนพูดโทรศัพท์อยู่เป็นทางเท้า ถ้าล้มลงตอนนั้นหน้าอาจคว่ำลงบนพื้นปูน หรือหัวอาจฟาดกับขอบถนนที่เป็นสัน...แล้วอะไรจะเกิดขึ้น!&nbsp;&nbsp;



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/04/p-anne-heat-stroke-04-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-52183"/></figure>



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/04/p-anne-heat-stroke-05-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-52182"/></figure>



เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์ว่า&nbsp;



1.&nbsp;ต้องระวัง อย่าออกกำลังกายมากเกินไปในวันที่อากาศร้อนจัด&nbsp;



2.&nbsp;ควรดื่มน้ำ หรือ กินอาหารเบาๆ สักเล็กน้อย ไม่ควรปล่อยให้ท้องว่าง แล้วออกกำลังกายหนัก หรือนานจนเกินไป&nbsp;



3.&nbsp;ควรพกโทรศัพท์ติดตัวไว้เสมอ เวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน&nbsp;จะได้โทรขอความช่วยเหลือทัน&nbsp;



4.&nbsp;เวลาออกกำลังกายควรมีน้ำติดตัวไว้&nbsp;เพื่อจิบแก้กระหาย&nbsp;ถ้าจะให้ดี&nbsp;ควรมีลูกอมติดตัวไว้ด้วย&nbsp;หากร่างกายอ่อนเพลีย ขาดน้ำ&nbsp;หรือขาดน้ำตาลขึ้นมากะทันหัน&nbsp;ยังพอจะช่วยได้&nbsp;



5.&nbsp;เมื่อได้สติ ค่อยๆ&nbsp;จิบน้ำเย็นๆ ถ้าเป็นน้ำหวานหรือน้ำเกลือแร่ยิ่งดี&nbsp;เพราะจะทำให้กระปรี้กระเปร่ามีกำลังเร็วขึ้น (ขอกระซิบว่าสปอนเซอร์เย็นๆ นี่สุดยอดเลยค่ะ ไม่ได้ค่าโฆษณานะคะ&nbsp;แต่ตอนที่ฟื้นขึ้นมาแล้วรู้สึกโหยๆ พอได้ดื่มน้ำเกลือแร่หวานๆ&nbsp;เย็นๆ&nbsp;แล้วสดชื่นขึ้นมาทันทีเลยค่ะ)&nbsp;



6.<a href="https://younghappy.com/blog/inspiration/anne-why-dhamma/" target="_blank" rel="noreferrer noopener"> หมั่นฝึกสติ</a>ไว้บ่อยๆ เวลาฉุกเฉินจะเห็นชัดเลยว่ามีประโยชน์มาก สติ ทำให้ดิฉันรู้ตัวว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น และโทรบอกที่บ้านทันก่อนจะวูบไป แถมวินาทีสุดท้าย ยังทันบอกกับตัวเองอีกว่า ดีจัง... ในที่สุดก็ได้รู้ว่าการเป็นลมหมดสติแบบที่เห็นในหนังบ่อยๆ มันเป็นยังไง เป็นเองซะ จะได้หายสงสัยเสียที! 



หมายเหตุ:&nbsp;เดือนเมษายน อากาศร้อนจัดกว่าเดือนอื่นๆ จึงมีโอกาสเกิด&nbsp;Heat Stroke&nbsp;สูงมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ชอบออกกำลังกายยิ่งต้องระวัง&nbsp;ควรหาความรู้ไว้เพื่อจะได้ป้องกันตัวเอง&nbsp;



เว็บไซต์แนะนำ&nbsp;<a href="https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/ฮีตสโตรกจากอากาศร้อน">https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/ฮีตสโตรกจากอากาศร้อน</a>

เกือบเสียชีวิต เพราะขอ ‘อีกนิด’ เท่านั้น!

The Covid-19 pandemic not only affects us physically, but also mentally due to the enormous pressure from the sudden life change.

The Covid-19 pandemic not only affects us physically, but also mentally due to the enormous pressure from the sudden life change in many aspects. It is, therefore, not unusual for us to experience stress and anxiety in such situations.



However, it is important to keep an eye on how we react to these changes and how our reactions affect those around us, especially our loved ones. So for that reason, it is best that we should learn and understand stress, its symptoms, and how to manage it properly.  



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/04/covid-จัดการความเครียด-11-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-52056"/></figure>



Stress and Anxiety Aren’t Always Bad



The very first thing one should understand is that stress and anxiety are all emotions. They are a natural instinctive state of mind that usually derives from contextual circumstances. According to the current situation, it is not surprising that one should experience stress and anxiety with the continuous change of living conditions as well as adaptive behaviors. Therefore, it is best to keep in mind that being stressed or anxious is not wrong, but we have to recognize it and know how to deal with it when the emotion arises.  



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/04/covid-จัดการความเครียด-12-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-52057"/></figure>



Stress Symptoms and Effects on the Body



The stress that accumulates over a long time could bring about physical and mental illness. The physical symptoms that are manifested during the presence of stress are sweating, nausea, frequent colds, chest pain and rapid heart rate. Over time, these symptoms may contribute to health problems such as insomnia, headache, palpitations and body aches. And this is just the beginning of many other diseases like heart disease, high blood pressure, diabetes and other illnesses, including mental disorders such as depression or anxiety.



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/04/covid-จัดการความเครียด-13-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-52058"/></figure>



How to Manage and Reduce Stress



Stress has been one of our survival instincts since ancient times. Everyone experiences stress in their life from time to time. One must learn to properly control and manage stress so that it does not affect daily life or their closed ones. If you are not sure what caused your stress, try following these advice: read news only as needed, strictly follow the instructions from the Ministry of Public Health, keep your daily routine, exercise and do activities that relax your body and mind.&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;



You can also ask your family about in-house activities. What activities does everyone feel fun to do? Some families love watching movies and playing games together. You can bring out new ideas - something that the family never did before like baking, drawing or playing board games.&nbsp;



Another thing that you can do with your family is to kindly and sympathetically ask how are they doing right now? Is there anything that needs help? Sometimes people feel stressed and just need a room to let it out. Talking with loved ones will definitely make them feel better.



Lastly, please take good care of yourself, be young and happy as always, and we will come through this crisis together.



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/04/ปิดท้ายคอนเทนท์-2020-04-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-52051"/></figure>



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/04/ปิดท้ายคอนเทนท์-2020-05-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-52052"/></figure>



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/04/ปิดท้ายคอนเทนท์-2020-06-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-52053"/></figure>



Download YoungHappy Application: <a href="http://onelink.to/9dfkjz">http://onelink.to/9dfkjz</a>



Contact: LINE: <a href="https://l.facebook.com/l.php?u=https%3A%2F%2Fline.me%2FR%2Fti%2Fp%2F%2540younghappy%3Ffbclid%3DIwAR1jbDhNif87ZWMsMQXe1yL5l7ruYsyJ38UoFFpPtwhPjbp9jM7NM1c6lfw&amp;h=AT1rkuKutWyyGaO4x_0vglT_mkXn63Erdp0mDjQ1IYNr95wVyoUfQjPmMvLlIHuCM9sq9JjjMDJUmm3b5UFhpP7cOvgX5GwWAXUfzE7cJGqbgYJ761jmCWnG9CMTywqMJg&amp;__tn__=-UK-R&amp;c%5b0%5d=AT3u7avr_9Lbvhvxxe4qfQV46nCkRE8ZvoWBBmulqgQfLeeyBcqzHUIaB5sc2UIrtkVwYtlySj-Y8QEVCudLsBa8hUrnp9y7PMkZIw3mClnS96U356qulcJZDE_YU-VWotRY-YDTVbyHirKD8F1zpx4ZcDmzeQewWFKdJ2P2sEqcGpSbH5zJPi_XftecQpHyItQQF05kOWwBiYSyjXi4mg" target="_blank" rel="noreferrer noopener">https://line.me/R/ti/p/%40younghappy</a> CALL CENTER: 06-5506-2889

How to Stay Happy: Stress Management for Elderly During the Covid-19 Pandemic

รู้หรือไม่ว่า จากผลสำรวจคนไทยส่วนใหญ่ขาดวิตามินดีจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัยพบว่ามีภาวะขาดวิตามินดีมากถึง 1 ใน 3 หรือ 31.8 เปอร์เซ็นต์

YoungHappy&nbsp;x Nestle&nbsp;



แม้ว่าเมืองไทยจะเป็นเมืองร้อนที่มีโอกาสได้รับแสงแดดทั้งวัน เพื่อให้ร่างกายสามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้ก็ตาม แต่ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ที่มักอยู่แต่ในบ้าน ในตึกอาคารไม่ได้เดินออกไปภายนอก รวมถึงการทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ ทำให้ร่างกายไม่ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ&nbsp;



และรู้หรือไม่ว่า จากผลสำรวจคนไทยส่วนใหญ่ขาดวิตามินดีจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัยพบว่ามีภาวะขาดวิตามินดีมากถึง&nbsp;1&nbsp;ใน&nbsp;3&nbsp;หรือ&nbsp;31.8&nbsp;เปอรเซ็นต์ และในกลุ่มสตรีวัยทอง พบมากถึง&nbsp;93&nbsp;เปอรเซ็นต์ จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อร่างกายขาดวิตามินดีและแคลเซียม&nbsp;



ยังแฮปปี้ และ เนสท์เล่ สนับสนุนให้คนไทยแข็งแรง และอยากให้วัยเก๋าทุกคนใส่ใจดูแลสุขภาพ จึงอยากจะแนะนำให้รู้จักความสำคัญของวิตามินดีและแคลเซียม คู่ซี้ของดีที่สำคัญต่อร่างกายที่ขาดไม่ได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/02/nestle-วิตามินดี-แคลเซียม-03-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-51556"/></figure>



จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อร่างกายขาดวิตามินดีและแคลเซียม&nbsp;&nbsp;



เรามักจะได้ยินเสมอถึงคุณสมบัติที่มาคู่กันของวิตามินดีและแคลเซียมในด้านการเสริมสร้างมวลกระดูก เพราะวิตามินดีมีหน้าที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ดังนั้นการขาดวิตามินดีก็อาจเป็นสาเหตุที่ให้เกิดการขาดแคลเซียม ร่างกายจึงต้องสลายมวลกระดูกเพื่อปลดปล่อยแคลเซียมออกมาในกระแสเลือด และเมื่อเป็นเช่นนี้ในระยะยาวทำให้กระดูกเปราะบาง เสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนได้&nbsp;&nbsp;



แต่ถ้าหากร่างกายมีวิตามินดีเพียงพอ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมแคลเซียมได้ถึง&nbsp;30-40%&nbsp;เลยทีเดียว และช่วยให้ร่างกายนำแคลเซียมไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ ที่จำเป็นต้องได้รับวิตามินและแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสม&nbsp;&nbsp;



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/02/nestle-วิตามินดี-แคลเซียม-04-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-51557"/></figure>



ประโยชน์ดีๆ ที่ได้รับจากวิตามินดีและแคลเซียม&nbsp;



อย่างที่ทราบกันดีว่า ผู้สูงอายุจำเป็นต้องได้รับวิตามินดีและแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอ เพราะแคลเซียมมีส่วนในการซ่อมแซม เสริมสร้างกระดูกและมวลกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยป้องกันภาวะกระดูกบาง กระดูกพรุน และกระดูกเสื่อมหรือหักง่ายที่มีโอกาสเกิดขึ้้นได้มากในผู้สูงอายุ เนื่องจาก&nbsp;20%&nbsp;ของแคลเซียมในกระดูกของคนที่อายุมากจะถูกย่อยสลายและสร้างใหม่ทุกปี&nbsp;&nbsp;



ขณะเดียวกันวิตามินดี ยังมีส่วนสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทั้งควบคุมการทำงานและกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และที่สำคัญคือช่วยพัฒนาสมองและเซลล์ประสาท กระตุ้นเอนไซม์ที่ใช้ในการสังเคราะห์สารสื่อประสาท ช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย&nbsp;&nbsp;



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/03/MicrosoftTeams-image-3-1024x1024.png" alt="" class="wp-image-51784"/></figure>



แหล่งอาหารที่ให้วิตามินดีและแคลเซียมพบที่ไหนบ้าง&nbsp;



แม้ว่าร่างกายคนเราจะสามารถรับวิตามินดีได้จากแสงแดด แต่ปัจจัยต่างๆ ทำให้เราไม่ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ เพราะฉะนั้น นอกจากการพยายามออกไปรับแสงแดงในตอนเช้าแล้ว คงหนีไม่พ้นเรื่องของการทานอาหารที่อุดมไปด้วย&nbsp;



- วิตามินดี แต่แหล่งอาหารที่มีวิตามินดีสูงค่อนข้างหายาก พบได้ในอาหารเพียงไม่กี่ชนิด ได้แก่ ตับ เนย ไข่แดงปลาแซลมอน ปลาทับทิม ปลาทูน่า ปลาทู และเห็ดบางชนิด เช่น เห็ดนางฟ้า เห็ดหอมสด&nbsp;



- ส่วนแหล่งของแคลเซียม สามารถหาได้ง่ายกว่า ไม่ว่าจะเป็น นม เต้าหู้ ถั่วชนิดต่างๆ ผักคะน้า บร็อคโคลี่ และปลาตัวเล็ก&nbsp;



เป็นที่น่าสนใจว่า โดยทั่วไปนมและผลิตภัณฑ์จากนม ซึ่งเป็นแหล่งของแคลเซียมไม่ใช่แหล่งอาหารที่มีวิตามินดีสูง ปัจจุบันเริ่มมีผู้ผลิตบางรายให้ความสำคัญและเติมวิตามินดีในนมกันมากขึ้น เพราะการเสริมวิตามินดีจะช่วยให้ลำไส้ดูดซึมแคลเซียมในทางเดินอาหารเพิ่มขึ้น ลดการขับแคลเซียมออกจากปัสสาวะ ส่งเสริมการสร้างมวลกระดูกเพิ่มขึ้น วิตามินดีและแคลเซียมจึงจัดเป็นเพื่อนคู่ซี้ที่ต้องมาคู่กันเสมอ&nbsp;&nbsp;



รู้อย่างนี้แล้ว ชาวยังแฮปปี้ก็อย่าลืมให้คู่ซี้ของดี วิตามินดีและแคลเซียม จากอาหารที่มีประโยชน์ดูแลในทุกๆ วันนะจ๊ะ&nbsp;



อ้างอิง&nbsp;



บทความ เพื่อนคู่ซี้ วิตามินดี-แคลเซียม&nbsp;&nbsp; โดย ดร. ภนิตา ศรีชมเชย นักกำหนดอาหารวิชาชีพ ผู้จัดการศูนย์โภชนาการและการกำหนดอาหาร โรงพยาบาลเทพธารินทร์&nbsp;

วิตามินดี + แคลเซียม  คู่ซี้ของดีที่วัยเก๋าห้ามขาด!

ยังแฮปปี้จึงอยากจะพาไปรู้จักกับ 3 อุปกรณ์ตัวช่วยในการ บริหารกล้ามเนื้อมือ สำหรับ ผู้สูงอายุ ที่มาจากสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านของเราเอง

เมื่อเราก้าวเข้าสู่วัยชรา สุขภาพร่างกาย กำลังวังชา หรือแม้แต่กล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ ก็คงเริ่มถดถอยหรืออ่อนแรงลงตามวัยที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในบางครั้งก็อาจส่งผลกระทบต่อการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ ดังนั้น ผู้สูงอายุ จึงควรหมั่นออกกำลังกายและ บริหารกล้ามเนื้อมือ อยู่เสมอ



อย่างการ บริหารกล้ามเนื้อมือ ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ ของร่างกาย เพื่อให้ ผู้สูงอายุ ยังคงสามารถหยิบจับสิ่งของได้อย่างมั่นคงและแม่นยำ และทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างปลอดภัย



วันนี้ ยังแฮปปี้จึงอยากจะพาพี่ๆ ไปรู้จักกับ 3 อุปกรณ์ตัวช่วยในการ บริหารกล้ามเนื้อมือ ที่มาจากสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านของเราเองนี่แหละ ยิ่งตอนที่ทุกคนต้องกักตัวอยู่บ้านแบบนี้ รับรองว่า สนุกและหายเหงาแบบที่พี่ๆ นึกไม่ถึงเลยทีเดียว



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/01/บริหารมือ-04-1024x1024.jpg" alt="" class="wp-image-51227"/></figure>



1.ไม้หนีบผ้า



ใครจะไปคิดว่า เจ้าอุปกรณ์แสนคุ้นเคยที่เราใช้หนีบผ้าตากผ้าอยู่ทุกวัน จะสามารถเป็นตัวช่วยแสนวิเศษในการบริหารกล้ามเนื้อและเพิ่มแรงบีบที่นิ้วมือของเราได้ แต่ไม้หนีบผ้าที่เราใช้กันอยู่เป็นประจำ มีทั้งแบบนิ่มและแบบแข็ง ทั้งนี้ ควรเลือกไม้หนีบผ้าที่เหมาะสมกับแรงของตนเอง ส่วนท่าบริหารก็คล้ายคลึงกับการใช้ไม้หนีบตามปกติเลย คือการจับไม้หนีบผ้าด้วยปลายนิ้วโป้งและนิ้วชี้หรือนิ้วกลาง บีบเข้าหากันเพื่อง้างปากไม้หนีบผ้าให้อ้าออกแล้วคลาย ทำซ้ำๆกันหลายๆครั้ง



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/01/บริหารมือ-05-1024x1024.jpg" alt="" class="wp-image-51228"/></figure>



2.ดินน้ำมัน



เวลาพูดถึงดินน้ำมัน หลายคนมักนึกถึงการปั้นดินน้ำมันสมัยเด็กๆ เพื่อช่วยเสริมสร้างทักษะด้านจินตนาการ ซึ่งจริงๆ แล้ว อุปกรณ์ของเล่นสำหรับเด็กชนิดนี้มีประโยชน์มากกว่านั้น เพราะการที่เราได้ปั้น ได้บีบ ได้ขย้ำดินน้ำมันจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อนิ้วมือของเราแข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างการประสานสัมพันธ์ ระหว่างประสาทตากับกล้ามเนื้อนิ้วมือให้สอดคล้องกันอีกด้วย รู้แบบนี้แล้ว หากวันไหนเจอลูกหลานกำลังปั้นดินน้ำมันอยู่ ก็เดินเข้าไปขอเล่นด้วยเลย



<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_upload/2021/01/บริหารมือ-06-1024x1024.jpg" alt="" class="wp-image-51229"/></figure>



3.ลูกปัดหรือลูกแก้ว



สมัยก่อน งานประดิษฐ์งานฝีมือเป็นเรื่องที่พี่ๆทำได้ง่ายๆ แต่เดี๋ยวนี้สิ จะหยิบจับอะไรก็ไม่ค่อยถนัดถนี่เหมือนเมื่อก่อน เห็นทีคงต้องเอาลูกปัดลูกแก้วที่เหลืออยู่ไปให้คนอื่นเสียแล้ว หยุดก่อน พี่ๆ อย่าเพิ่งให้ใครเลย เพราะว่าลูกปัดลูกแก้วเหล่านี้ สามารถเป็นอุปกรณ์ช่วยในการฝึกหยิบจับของชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้เป็นอย่างดี โดยใช้นิ้วโป้งกับนิ้วต่างๆ หยิบลูกปัดหรือลูกแก้วใส่จานทีละเม็ด ถ้าทำบ่อยๆ สักวัน พี่ๆ อาจจะกลับมาทำงานประดิษฐ์ได้อย่างคล่องแคล่วอีกครั้งก็เป็นได้



เป็นอย่างไรกันบ้าง กับ 3 อุปกรณ์ตัวช่วยใกล้ตัวที่จะมาช่วยบริหารกล้ามเนื้อ เพิ่มแรงบีบมือ และช่วยในเรื่องของการหยิบจับสิ่งของให้กระชับและมั่นคงมากยิ่งขึ้น ถ้าหากพี่ๆ คนไหนรู้จักอุปกรณ์ตัวช่วยดีๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมานี้ อย่าลืมคอมเมนต์มาบอกเล่าประสบการณ์ให้เพื่อนๆ วัยเก๋าคนอื่นๆฟังด้วยนะจ๊ะ



คำเตือน: ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บ เช่น เจ็บ ปวด ติดขัด ที่นิ้วมือ ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เพื่อรับวิธีการบริหารกล้ามเนื้อมือที่เฉพาะเจาะจงและเหมาะสม



อ้างอิง “ตำราโกงอายุ” คู่มือสำหรับผู้สูงวัยที่ทำให้การดูแลชีวิตหลังวัยเกษียณเป็นเรื่องง่ายๆ <a href="http://www.siphhospital.com/th/news/article/share/998/Hand-Exercises">http://www.siphhospital.com/th/news/article/share/998/Hand-Exercises</a>

สุขภาพ

มื้อเช้านั้นสำคัญไฉน สูงวัยสุขภาพดีต้องไม่พลาดอาหารมือเช้า

สุขภาพดีได้ง่ายๆ แค่ดื่มน้ำให้เพียงพอ

เกือบเสียชีวิต เพราะขอ ‘อีกนิด’ เท่านั้น!

How to Stay Happy: Stress Management for Elderly During the Covid-19 Pandemic

วิตามินดี + แคลเซียม คู่ซี้ของดีที่วัยเก๋าห้ามขาด!

แนะนำ 3 อุปกรณ์ช่วยบริหารกล้ามเนื้อมือ จากของใช้ใกล้ตัวภายในบ้าน